เค 100 ล้าน นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ป่วนเมือง ล่าสุดมีวีรกรรมอีก โพสต์คลิปถุงใส่งูเห่าวางไว้บนเตียงนอนของโรงแรมดัง จากกรณี เค ร้อยล้าน ชายคลั่งก่อเหตุปาขวดแก้วในห้างดังย่านปทุมวัน ทำให้มีชาวบ้านที่เดินผ่านมาได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจะระบุชายคนดังกล่าวเป็นคนเดียวกันกับที่เคยก่อเหตุปล่อยงูที่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 24 เม.ย.62 และทำร้ายตัวและปล่อยงูเมื่อ 1 ก.พ.65 ที่ถนนราชดำริ เป็นคนเดียวกันทั้งหมด โดยสน.ลุมพินี ได้ทำการเปรียบเทียบปรับกรณีดังกล่าว อยู่ระหว่างรอผลตรวจแอลกอฮอล์ สารเสพติด และรวมทั้งสภาพจิต
อย่างไรก็ตาม นอกจากคลิปเที่ยวล่าสุดที่หลุดว่อนโซเชียลเมื่อ “เค ร้อยล้าน”ไปอาละวดที่ห้างดัง
ล่าสุดเมื่อตรวจสอบไปยังเฟซบุ๊กส่วนตัวของชายคนดังกล่าว พบว่าก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้มีการนำงูเห่าใส่ถุงและเข้าพักที่โรงแรมดังกลางเมืองแห่งหนึ่ง ก่อนโพสต์คลิปถุงใส่งูเห่าที่ถูกวางไว้บนเตียงนอนของโรงแรม พร้อมแคปชั่นสรุปว่า “พาพี่ๆพญางูเห่า อสรพิษร้ายแรงที่สุดในโลก ให้ตื้นเช้า ชมบรรยากาศ ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ณ โรงแรมหรู”เค
ยังไม่หยุด เค 100 ล้าน ที่เพิ่งก่อเหตุอาละวาดห้างสรรพสินค้าย่านดัง ล่าสุดโพสต์คลิปปล่อยงู พร้อมกัยแท็กสถานที่มหาลัยธรรมศาสตร์ นายคเณศพิศณุเทพ จักรภพมหาเดชา หรือ “เค 100 ล้าน” ที่กลายเป็นข่าวดังหลังจากโดนทั้งตำรวจจับและมีคลิปเจ้าตัวอาละวาดจนเป็นประเด็นร้อนบนโซเชียล ล่าสุดหลังจากมีคลิปปาขวดแก้วกลางศูนย์การค้าใจกลางกรุง จนเศษแก้วกระเด็นโดนลูกค้าที่มาใช้บริการ ร้อนถึงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต้องมาเชิญตัวออกจากศูนย์การค้า โดยหลังเกิดเรื่องสร้างความวุ่นวายในห้างดัง “เค 100 ล้าน” ได้โพสต์ขอโทษเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อวานนี้ (13 ก.พ.) หลังจากมีการปาขวดแก้ว จนเศษแก้วกระเด็นเกือบโดนผู้หญิงคนหนึ่ง พร้อมระบุว่า หากประสงค์ให้ทำขวัญ ยินดีที่จะรับผิดชอบทั้งหมด
ขณะที่ วันนี้ (14 ก.พ.65) เจ้าตัวได้มีการโพสต์คลิปอ้างว่า เดินทางไปไปยังมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต โดยมีการนำ “งูไปปล่อย” พร้อมระบุข้อความ “สามกีบลองทายสิ xxxมาทำไม xxxมาถล่มพวกxxx นับเวลาถอยหลัง ไอ้พวกนักศึกษา 3 กีบ ใครอย่ามาใกล้xxxนะ ในรถxxxมีนะงู 555 xxxเตือนแล้วนะ”
‘ธนกร’ ย้ำ โควิดรักษาฟรี ขอประชาชนอย่ากังวล
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ย้ำ โควิดรักษาฟรี แก้ข่าวหลังประชาชนเข้าใจผิด ขอให้ประชาชนอย่ากังวล และ เชื่อมั่นในระบบสาธารณสุข
นาย ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีชี้แจง กรณีที่มีกระแสข่าวอ้างการถอดการรักษาโควิด-19 ออกจาก UCEP (Universal Coverage for Emergency Patients) หรือ สิทธิการรักษาตามนโยบายรัฐเพื่อคุ้มครองผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต ทำให้เกิดการเข้าใจผิดว่า หากติดโควิด-19 แล้วต้องจ่ายค่ารักษาเองนั้น
โดย กระทรวงสาธารณสุขมีแผนปรับแนวทางการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 มาเป็นการรักษาตามสิทธิการรักษาพยาบาลของแต่ละคนนั้น ขอยืนยันว่า ประชาชนยังได้รับการรักษาเหมือนเดิมโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น รวมทั้งยังสามารถไปรับบริการในโรงพยาบาลเอกชนได้ หากมีอาการเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติ ขอประชาชนอย่ากังวลเรื่องการรักษา ย้ำ การถอนโควิด-19 ออกจากโรคฉุกเฉินวิกฤติ ไม่ได้หมายความว่า “หมดสิทธิรักษาฟรี”
นายธนกร กล่าวต่อว่า ปัจจุบันประเทศไทยพบผู้ป่วยโควิด-19 ด้วยสายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งผู้ป่วย 80-90% แทบไม่มีอาการ สามารถรักษาตัวที่บ้านในระบบ Home Isolation ได้ ไม่ได้อยู่ในภาวะฉุกเฉิน จึงไม่มีเหตุที่ต้องรีบเข้าโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด
หากมีการประกาศให้โรคนี้ไม่เป็นภาวะฉุกเฉิน ผู้ป่วยก็สามารถไปรับการรักษาพยาบาลได้ตามระบบปกติตามสิทธิของตนที่มีอยู่ เช่น หากใช้สิทธิบัตรทอง จะมีหน่วยบริการประจำที่ลงทะเบียนไว้ ผู้ป่วยสามารถไปรับบริการได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หรือหากเข้าระบบการดูแลแบบ Home Isolation สปสช. ก็ยังดูแลค่าใช้จ่ายให้เหมือนเดิม แต่หากมีอาการฉุกเฉิน ผู้ป่วยสามารถเข้ารับบริการในหน่วยบริการที่ใกล้บ้านที่สุดโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นรัฐหรือเอกชน ทั้งนี้ ปัจจุบันประชาชนไทยได้รับการคุ้มครองสิทธิการรักษาพยาบาลจากรัฐบาล 3 ระบบใหญ่ด้วยกัน ได้แก่ 1) สิทธิสวัสดิการการรักษาพยาบาลของข้าราชการ 2) สิทธิประกันสังคม และ 3 สิทธิหลักประกันสุขภาพ หรือบัตรทอง
“พลเอก ประยุทธ์ จันทร์ โอชา นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำถึงการดูสุขภาพของประชาชนต้องให้ทั่วถึงทุกกลุ่ม โดยเฉพาะในภาวะวิกฤติโควิด-19 ไม่ทอดทิ้งประชาชนอย่างแน่นอน หากป่วยด้วยโรคโควิด-19 ยังคงสามารถเข้ารักษาตามสิทธิสุขภาพของตน โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เหมือนเดิม ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นในระบบสาธารณสุขไทยที่ได้รับการยกย่องติดอันดับโลกมาโดยตลอด
ทั้งในการรักษาพยาบาลโรคทั่วไป และการจัดการรักษาพยาบาลโรคโควิด สิ่งสำคัญคือการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเอง โดยเฉพาะการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นซึ่งเป็นนโยบายที่สำคัญ ที่จะช่วยปกป้องให้ปลอดภัยจากโรคนี้ได้ จึงขอเชิญชวนประชาชนทุกกลุ่มที่รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว ให้ไปรับวัคซีนเข็ม 3 เพื่อกระตุ้นสร้างภูมิคุ้มกัน” นายธนกร ย้ำ
ซึ่ง พล.ต.ต.ไตรรงค์กล่าวว่า นายปริญญ์ยังไม่ได้มีการติดต่อขอมอบตัวก่อนออกหมายจับแต่อย่างใด แต่คาดว่าคงติดตามข่าวและชิงมอบตัวก่อนอย่างครั้งแรก อย่างไรก็ตาม คดีที่อัตราโทษเกิน 3 ปี พนักงานสอบสวนก็ต้องรวบรวมพยานหลักฐานไปขอหมายจับที่ศาลตามปกติ
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป